ดูดวงให้เป็น ดูดวงให้มีสติ

โดย เชียร บางบอน

     ในระยะนี้ผมมีงานที่ต้องทำอยู่มากพอสมควร กับยังไม่มีวัตถุดิบในการเขียน ตามปกติแล้วการเขียนโหราศาสตร์ให้คนที่มีความรู้อ่านนั้นเป็นเรื่องไม่ยากนัก เพราะเป็นการนำประสบการณ์บนโต๊ะพยากรณ์มาเล่าสู่กันฟัง แต่การเขียนเรื่องราวทางโหราศาสตร์ให้คนที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้อ่านก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ศัพท์แสงทางโหรก็ไม่สามารถเขียนมากนัก เพราะอาจจะทำให้ผู้อ่านงง โดยเฉพาะท่านที่สนใจในเรื่องการพยากรณ์แบบจีนในเวปนี้อาจจะมึนก็เป็นได้
     วันนี้พอดีมีลูกค้ามาเล่าให้ฟังว่าถูกหมอดูหลอก (เขาเล่านะครับ) ว่าดวงไม่ดีมาหลายปีแล้วก็ต้องไปเปลี่ยนชื่อให้เกิดพลัง ชีวิตจะได้ก้าวหน้ามีความสำเร็จอย่างที่ต้องการได้ จะได้พ้นเคราะห์พ้นโศก เธอก็รีบไปเปลี่ยนชื่อทันทีทันควันแต่ก็ไม่มีเรื่องราวที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เธอก็เกิดความรู้สึกท้อแท้ เพื่อนจึงพาไปหาหมอดูคนใหม่ซึ่งก็พยากรณ์เรื่องราวได้ถูกต้อง เธอก็เกิดความศรัทธา หมอดูรายใหม่ก็แนะนำใหเธอทำพิธีเสดาะห์เคราะห์สร้างบุญสร้างกุศล เธอก็ทำตามที่หมอดูท่านนั้นว่า ผลก็เหมือนเดิมแต่กับรายจ่ายที่เธอต้องจ่ายไปนั้น ทำให้หนี้สินเธอเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ การค้าเธอมีปัญหามากจึงเที่ยววิ่งหาหมอดูเกือบทุกประเภท ถูกหลอกบ้าง ไม่ถูกหลอกบ้าง แต่ชีวิตของเธอก็ไม่ดีขึ้น
     เธอมาพบกับผมเพราะเพื่อนเธอแนะนำมา เมื่อดูรูปดวงแล้วก็เห็นว่าชีวิตของเธอนั้นคงมีปัญหาไปอีกหลายปี แต่พอได้ยินเธอปรับทุกข์ให้ฟังก็อดที่จะเกิดความรู้สึกกังวลในเรื่องที่จะพยากรณ์ออกไม่ได้ ความเป็นนักพยากรณ์นั้นเราไม่ได้มีปาฏิหารย์ที่จะไปเปลี่ยนชีวิตของคนได้ แต่คนที่มาให้พยากรณ์นั้นต้องการปาฏิหารย์จากผม หวังว่าผมจะสามารถสร้างปาฏิหารย์ปัดเป่าเคราะห์โศกที่เธอจะเผชิญมาให้หมดสิ้นไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ผู้มาพบผมย่อมเป็นเรื่องเหลือวิสัยที่ผมจะจัดการให้ได้ ผมเองนั้นยึดหลักในการพยากรณ์ว่า จะพยากรณ์ดวงชะตาไปตามหลักวิชาอย่างเต็มตามความสามารถ จะให้คำปรึกษาได้ภายใต้กรอบของวิชาการทางโหราศาสตร์เท่านั้น ผมเองนั้นไม่ค่อยเชื่อเรื่องปาฏิหารย์ แต่หลายครั้งที่ลูกค้าของผมได้เล่าให้ฟังว่าไปพบหมอดูเขาแนะนำให้ทำแบบนั้นแบบนี้แล้วก็ปรากฏว่ามีความสำเร็จในเรื่องที่ต้องการอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้นผมจึงต้องยึดถือว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ สิ่งที่เป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ แต่ว่าจะเป็นเรื่องที่สามารถเกิดได้ง่ายก็ไม่ใช่เช่นกัน ชีวิตคนเรานั้นพระพุทธองค์ที่ได้ตรัสไว้ว่า “มนุษย์สามารถล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร” ด้วยพุทธวจนะนี้ เมื่อเราต้องประสบเคราะห์กรรม หรือเมื่อมีทุกข์ จึงมีหลักการที่เราต้องยึดถือไว้ดังนี้
        1. เมื่อเรามีเคราะห์กรรมหรือดวงเราตก เราจะต้องรักษาจิตใจมิให้ตกตามไปด้วย
        2. ต้องมีสติและทำความเข้าใจกับอริยสัจสี่ให้กระจ่าง 
             ทุกข์ คือ เคราะห์กรรมหรือเป็นปัญหา ต้องหาให้พบว่าอะไรเป็นเป็นทุกข์ของเรา 
             สมุทัย หาสาเหตุที่เป็นต้นเหตุแห่งการเกิดเคราะห์หรือปัญหาที่เราเผชิญอยู่ 
             นิโรธ ลักษณะของการหมดเคราะห์หรือหมดปัญหา หรือชีวิตที่จะพ้นเคราะห์ได้นั้น เป็น อย่างไร เพื่อจะได้กำหนดแนวทางได้ถูกต้อง 
             มรรค คือหนทางและวิธีการที่ใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อให้สามารถกำจัดปัญหาได้ และ สามรถกำจัดได้อย่างสิ้นเชิง
        3. การตั้งตนอยู่ในสติ รู้ทันความคิดรู้ทำแต่สิ่งที่ชอบ และดำรงค์ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท
     ที่จริงการประพฤติปฏิบัติตนยังมีอีกหลายข้อหลายวิธี แต่ก็ให้ท่านที่สนใจรองหาหนังสือธรรมมาอ่านก็พอจะเข้าใจ นอกจากหลักทางพุทธศาสนาแล้ว การนำโหราศาสตร์มาร่วมแก้ปัญหานั้นก็ย่อมสามารถทำได้ และส่วนหนึ่งผมได้เขียนไว้ในบทความตอนแรกแล้ว คือ “การวางแผนชีวิตพิชิตความสำเร็จ” แต่บทความจำนวนหลายตอนนั้นเป็นการเริ่มต้นใช้ชีวิต แต่ถ้าคนเราได้ดำเนินชีวิตไปแล้วประสบปัญหา ก็จำเป็นที่เราจะต้องออกจากปัญหาก่อน จึงสามารถเลือกทางชีวิตใหม่ได้ คนเราเมื่อประสบปัญหานั้นจะเหมือนกับคนที่ผงเข้าตา ย่อมไม่สามารถที่มองเห็นผงในตาของตนเองได้ จะเขี่ยย่อมไม่ได้ ต้องหาคนที่ตาดีมาช่วย หรืออาจจะเปรียบเทียบกับนักมวยบนเวทีที่ถูกคู่ต่อสู้ชกจนไม่สามารถป้องกันตนเองได้ คนที่สามารถมองเห็นช่องทางแก้ปัญหาก็ย่อมเป็นโค้ช หรือคนดูที่อยู่นอกเวทีนั่นเอง แต่การที่คนเราจะหาคนมาปรึกษาได้นั้นก็ย่อมขึ้นอยู่กับสังคม ความมีมนุษย์สัมพันธ์ของคนๆนั้น ปัญหาบางอย่างก็ไม่สามารถแก้ไขได้ เมื่อต้องพบประสบแล้วก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดกับตัวเองให้ได้ เช่น โรคที่รักษาไม่หาย หรือการสิ้นอายุขัย ทุกผู้คนย่อมที่จะต้องประสบพบนั่นเอง

ดวงนี้เป็นชายเกิด วันพฤหัสที่ 13 ม.ค. 2498 เวลา 23.15 น.

ป่วยเป็นมะเร็งที่ถุงน้ำดีทราบเมื่อ 3 พ.ย. 2549

     ดวงนี้ญาติๆของเขาได้มาพบผม เพื่อให้ดูดวงว่ามีเคราะห์ร้ายประการใด สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ขณะที่มาดูดวงอายุของเขาย่าง 52 ปี ดวงนี้ตั้งแต่อายุย่าง 32 ปี จนถึงอายุย่าง 52 ปี ดาว ศุกร์ เสวยอายุ และระหว่าง 12 ก.ย. 47 – 13 ม.ค. 50 ดาวราหูเสวยแทรก หลักการดูดวงด้วยวิธีมหาทักษานั้นเราต้องพิจารณาดูก่อนว่า เมื่อดาวศุกร์เสวยอายุ ดาวที่จะนำโทษมาสู่ดาวศุกร์ได้นั้น มีด้วยกัน 2 ทางคือ 1. ดาวที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าเรือน อริ มรณะ และวินาศ และ 2. ดาวที่อยู่ในเรือนอริ มรณะ วินาศ ซี่งในดวงนี่ไม่มีในข้อ2นี้ ในดวงนี้ดาวที่เป็นเจ้าเรือนอริ คือดาวราหู จะแทรกเมื่ออายุย่าง 50 – 52 ปี ดาวราหูจะให้โทษในเรื่องการเจ็บป่วย หรือหนี้สิน ดาวที่เป็นเจ้าเรือนมรณะ คือดาว อังคาร จะเสวยแทรกเมื่อ อายุ 39 – 41 ปี ดาวมรณะ คือความเดือดร้อนเสียหาย ดาวที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าเรือนวินาศ คือการวิบัติ สูญสิ้น การจองจำ คือดาว ๑ ซึ่งจะเสวยอายุแทรกเมื่ออายุ 35 ปี เราก็พอมองภาพออกว่าดวงนี้มีเคราะห์ที่ต้องระวังคือ ช่วงอายุ 35 39 40 41 50 51 52 ปี นับจากอายุย่าง 32 – 52 ปี เขาจะมีเคราะห์ที่ต้องระมัดระวังอยู่ถึง 7 ปี แต่เมื่อพิจารณาดาวที่ให้โทษจำนวน 3 ดวง คือ ดาวอาทิตย์ ดาวอังคาร และดาวราหู ในจำนวนดาวทั้ง 3 ดวงนี้ราหูจะเป็นดาวที่น่ากลัวมากที่สุด เนื่องจากเป็นดาวที่เดินช้า จึงมีแรงกดดันในเรื่องร้ายๆ ได้ยาวนาน และที่สำคัญดาว ราหู เป็นกาลีของดาวศุกร์แถมในดวงยังกุมกับดาวอาทิตย์คู่ศัตรูใหญ่ ที่เป็นเจ้าเรือนวินาศ ในทางโหราศาสตร์เราจำเป็นที่จะต้องเตือนให้เจ้าตัวทราบทันทีว่า เขาจะได้รับโทษจากราหู เป็น 2 สถานที่ต้องใส่ใจก็คิอ
        1. การเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
        2. การเจ็บป่วยด้วยโรคที่มาจากราหู คือโรคความดันสูง โรคมะเร็ง
     ในวันที่ 28 ส.ค. 46 ดาวราหูที่เสวยแทรกได้จรเข้าพบมรณะ ซึ่งเป็นช่วงอายุของเขา 49ปี 7 เดือน เมื่อเขาอายุเต็ม 50 ปีดาวราหูก็แสดงโทษในการเจ็บป่วย แต่เจ้าตัวก็ไม่ทราบเพราะไม่มีอาการเจ็บป่วยปรากฏขึ้น เมื่อดาวราหูจรเล็งลัคนาสนิทองศาเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 49 เจ้าตัวเริ่มมีอาการไม่ปกติ แต่กึคิดว่าไม่เป็นอะไร น่าจะเป็นเพียงโรคกระเพาะจึงไม่ได้สนใจ และนับจากวันนั้นอาการเจ็บป่วยก็เริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จนถึงวันที่ 3 พ.ย. 49 เจ้าก็เจ็บจนทนไม่ได้ต้องเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล ด้วยมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เหล่าบรรดาญาติๆพยายามหาวิธีการสะเดาะห์ด่วยวิธีการต่างๆนานา แต่แพทย์ที่รักษาก็ได้บอกให้ญาติๆทำใจที่ต้องรับกับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น
     การดูดวงจึงเป็นการดูเพื่อเตรียมตัวรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้เราจะไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นเหมือนตาเห็น แต่ก็ก็พอทราบช่วงเวลาที่ดีร้าย และอาจจะสามารถเตรียมตัว อย่างในกรณีนี้ก็พอจะทราบว่าเราเรื่องที่จะเกิดขึ้นนั้นมีอยู่ 2 สาเหตุ คือ เรื่องหนี้สินและเรื่องการเจ็บป่วย เรื่องหนี้ถ้าไม่คิดจะก่อก็ไม่น่าจะต้องกังวล ส่วนเรื่องสุขภาพถ้าตรวจเช็ตเสียแต่เนิ่นก็อาจจะมีโอกาสที่จะรักษาได้ทันท่วงที
     นอกจากการนำดวงชะตามาดูดวงชะตาคนแล้ว เรายังสามารถนำหลักวิชาทางโหราศาสตร์มาคาดหมายเหตุการณ์บ้านเมือง เพราะวางแผนการดำเนินชีวิต การดำเนินธุรกิจให้เกิดความมั่นคง แก่ชีวิตและกิจการได้ แต่การนำโหราศาสตร์มาใช้ จะเกิดประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อคนที่นำมาใช้ต้องมีสติและใช้ชีวิตที่ไม่ตั้งอยู่กับความประมาทเท่านั้น เราลองมาดูดวงเมืองไทยกันดูเมื่อคราวที่เกิดวิกฤติทางการเงินจน I.M.F ต้องเข้ามากำกับดูแลเศรษฐกิจไทยจนเราคนไทยต้องพบกับความเจ็บปวดอย่างสาหัสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซากของวิกฤติแหล่านี้ยังปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน ที่เห็นชัดๆก็น่าจะเป็นธนาคารไทยที่ต้องแปลงสัญชาติไปเป็นต่างประเทศหลายๆธนาคาร

ผมจะใช้หลักวิชาในการพยากรณ์แบบง่ายๆที่เรียกว่าวิชามหาทักษา หรือเทวดาเสวยอายุ

ดวงเมืองไทยสถาปนาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เวลา 06.54 น.

ดวงจรเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 วันลดค่าเงินบาท

     ดวงเมืองไทยนี้ดาวที่เสวยอายุ ระหว่างปี พ.ศ. 2520 - 2541 เป็นดาว ศุกร์
         ดาวที่ส่งผลให้ประเทศไทยมีเคราะห์ในรอบนี้ คือ
         ดาวศุกร์ ให้โทษ ระหว่าง ปีพ.ศ. 2520 – 2524
         ดาวอังคารให้โทษระหว่าง ปีพ.ศ. 2528 - 2530
         ดาวพุธให้โทษระหว่าง ปีพ.ศ. 2530 – 2533
         ดาวพฤหัสให้โทษระหว่าง ปีพ.ศ. 2535 – 2538
         ดาวราหูให้โทษระหว่าง ปีพ.ศ. 2538 – 2541
     ในบรรดาดาวที่ให้โทษทั้งหมดนั้น จะมีดาว อังคาร ดาว พฤหัส และดาวราหู ท่านผู้อ่านก็ลองไปหาประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นไปอ่านดูก็แล้วกัน แต่ที่น่าสนใจดาวที่ให้โทษมากเป็นพิเศษ คือดาว พฤหัสและดาวราหู ดาวพฤหัสให้โทษในเรื่องผู้นำ ผู้บริหาร และเรื่องเกี่ยวกับกฏหมาย ส่วนดาวราหูให้โทษเกี่ยวกับเรื่องการเงิน รายได้ การคลังของประเทศ
     ในช่วงตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 38 - 28 มิ.ย. 40 ราหู จรในภพอริ หมายถึงเศรษฐกิจไทยพบกับปัญหาในเรื่องหนี้สินอย่างรุนแรง และการลดลงของรายได้ประชาชาติ
     ในช่วงตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 40 – 21 เม.ย. 41 ราหูจรในพบปุตตะเป็นประ หมายถึงการคลัง การเงินของประเทศมีการปฏิวัติปรับปรุงยกเครื่องกันใหม่ และเกิดความยากจนแผ่ไปทั่วประเทศ ในปีนั้นดาวเสาร์กัมมะของประเทศจรเข้าทับราหูจรเป็นวินาศ ธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆจึงพังทลายลงไป โดยเฉพาะเรื่องอสังหาริมทรัพย์
     ในปัจจุบันดาวจันทร์ได้เข้าเสวยอายุดวงเมืองระหว่างปี 21 เม.ย. 2547 – 21 เม.ย. 2562
         ดาวอังคาร เสวยแทรกระหว่าง ปีพ.ศ. 2549 - 2550
         ดางพุธ เสวยแทรกระหว่าง ปีพ.ศ. 2550 – 2552 
         ดาวพฤหัสเสวยแทรกระหว่าง ปีพ.ศ. 2554 – 2556
         ดาวราหูเสวยแทรกระหว่าง ปีพ.ศ. 2556 - 2558
         ดาวอังคารให้โทษในเรื่องความความขัดแย้งของผู้นำในประเทศ การเงินเศรษฐกิจ
         ดาวพุธให้โทษในเรื่องชื่อเสียง กฎหมาย และปัญหาทางด้านสื่อสารมวลชน
         ดาวพฤหัสให้โทษในเรื่องเศรษฐกิจ อสังหาริมทรัพย์ และปัญหาการเปลี่ยนผู้นำประเทศ
         ดาวราหูให้โทษในเรื่อง อุตสาหกรรม การผลิต รายได้ประเทศ และการคลังของประเทศ
     ท่านผู้อ่านที่มีครวามรู้ทางด้านโหราศาสตร์ก็รองใช้หลักวิชาพยากรณ์ดูว่าระยะเวลาที่กล่าวนี้มีรายละเอียดหรือมีเรื่องที่คาดไว้ผิดพลาดอย่างไร ก็ลองพยากรณ์กันดูนะครับ แต่ผมขอให้เน้นในปีที่ราหูเสวยแทรกให้มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นปีที่จรให้โทษแบบเดียวกันกับปี2540 ส่วนตอนดาวพฤหัสจรให้โทษนั้นจะเป็นการปรับเปลี่ยนผู้นำหรือกฏหมายบางอย่างแล้วประเทศจะมีความก้าวหน้ารุ่งโรจน์ต่อไป ก็ขอฝากไว้กับท่านผู้อ่านนะครับช่วยกันเฝ้าดูเหตุการณ์กันต่อไป และที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็ต้องการให้ท่านผู้อ่านเข้าใจการนำโหราศาสตร์ไปคาดหมายเหตุการณ์ต่างๆด้วยวิธีง่ายๆครับ และอาจจะเป็นแนวทางที่จะได้ซักไซร้หมอดูให้หาช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังสำหรับแต่ละคนไว้ด้วย แต่ถึงจะง่ายแต่ก็มีความแม่นยำสูงพอเชื่อถือได้ทีเดียวครับ ผมไม่ต้องการใช้ความรู้ที่ซับซ้อนมากนักอย่างน้อยก็เชื่อว่าผู้ที่อ่านบทความของผมย่อมมีผู้ที่สามารถพยากรณ์ดวงได้และต้องมีผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์เก่งกว่าผมอยู่บ้าง สุดท้ายของบทความนี้ผมขออวยพรให้ท่านผู้อ่านที่อ่านบทความผมจึงมีปัญญา มีสติ มีศิลมีธรรม และครรลองชีวิตที่ดีงามไม่มีทุกข์มาเบียดเบียนทุกท่าน......เทอญ
 

**************************************