บ้านฮวงจุ้ย : Fengshuihut
|
วิธีแลกลิงค์ :
คัดลอกโค้ดข้างล่างนี้ไปใส่ไว้ในเว็บของท่าน
ส่งเมล์บอกลิงค์ของท่านมาที่
admin@fengshuihut.com |
Web page counter
ประวัติอาจารย์ |
ประวัติอาจารย์หยังกง |
ประวัติอาจารย์จางจื่อน่ำ |
ประวัติอาจารย์ เซ้าคังเจี๋ย |
บทความของอาจารย์ท่านอื่นๆ |
บทความ อ.เชียร บางบอน |
บทความ อ.ฮิม เมืองเลย |
รวมลิงค์ |
sanook.com |
payakorn.com |
meesook.com |
hunsa.com |
pantip.com |
|
โหงวเฮ้งหรือนรลักษณ์ศาสตร์ วิชาโหงวเฮ้งหรือนรลักษณ์ศาสตร์ คือ การดูลักษณะของคนมิใช่พิจารณาดูแต่ใบหน้าเพียงอย่างเดียว คือ พิจารณาตั้งแต่ศีรษะจนจรดปลายเท้า ซึ่งพิจารณาจากเส้นผมลงมา เส้นขนตามแขน ลักษณะโครงสร้างของร่างกาย เช่น การแบ่งสัดส่วนของร่างกายจากลักษณะของโครงกระดูก ส่วนศรีษะถึงคอ ส่วนลำตัวจากคอถึงเอวประมาณกระดูกก้นกบ และส่วนล่างจากเอวไปถึงปลายเท้า แล้วพิจารณาถึง ความสมดุลของสามส่วนโดยดูจากรูปร่างของคนผู้นั้น ก็จะบอกถึงลักษณะนิสัยและการกระทำบางประการในการดำเนินชีวิตของเขาได้ เช่น คนที่มีส่วนลำตัวยาวกว่าส่วนล่าง ซึ่งในสมัยโบราณมีคำกล่าวไว้ว่า “พวกเกียจคร้านสันหลังยาว” บุคคลประเภทนี้ มักขาดความกระตือรือร้นทำงานไม่มีน้ำอดน้ำทน นอกจากนี้ยังดูถึงอากับกิริยาต่าง ๆ เช่น การเดิน การยืน การนั่ง รวมไปถึงท่านอน ลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะบอกได้ เช่น เดินแบบรวดเร็ว คนประเภทนี้มักใจร้อน หรือเดินแบบมองวิวทัศน์ คนประเภทนี้มักชอบจินตนาการเพ้อฝัน แม้แต่น้ำเสียงก็อยู่ในขอบเขตของวิชาโหงวเฮ้ง เช่น เป็นผู้ชายเสียงควรต้องดังฟังชัดมีความทุ้มหนักแน่นไม่ใช้เสียงเล็ก ๆ แหบ ๆ ส่วนผู้หญิงเสียงต้องใสมีความกังวาล ถ้าเสียงใหญ่ ๆ แหบ ๆ มักอาภัพในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น มีปัญหาในชีวิตคู่ หรือมีคู่แต่ต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนสามี ดังนั้น วิชาโหงวเฮ้งจึงรวมเอารูปลักษณะภายนอกของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศีรษะ คอ ช่วงยาวสั้นของแขน ข้อศอก ข้อมือ ฝ่ามือ นิ้วมือ ลำตัว ท่อนขาส่วนบนส่วนล่าง ข้อเท้า หลังเท้า ฝ่าเท้า และนิ้วเท้า ประกอบกับกิริยาท่าทาง คำพูดคำจา แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกับใบหน้าของคนผู้นั้น ก็จะทราบถึงวิถีชีวิตของเขาได้ว่าจะเป็นอย่างไรตั้งแต่เกิดจนบั้นปลาย มิใช่นำเอาใบหน้ามาวิเคราะห์อย่างเดียวแล้วเรียกว่า โหงวเฮ้งอย่างที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ ซึ่งวิชาโหงวเฮ้งมีมาตั้งแต่ในสมัยของจีนโบราณ ใช้พยากรณ์จากใบหน้ารูปร่าง ท่าทาง โดยไม่ต้องดูจากวัน เดือน ปีเกิด สามารถบอกเรื่องราวได้แม่นยำไม่แพ้โหราศาสตร์แขนงอื่น ๆ ดังนั้น ซินแสสมัยก่อนที่ศึกษาวิชาโหงวเฮ้ง จึงได้เปรียบเพราะเห็นหน้าลูกค้าก็ทราบในใจแล้วว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย เป็นเศรษฐีหรือเป็นขุนนางหรือฮ่องเต้ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่วิชาที่เป็นแก่นแท้มิได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปอีกหลาย ๆ รุ่นทั้ง 100% เนื่องจากผู้ที่เป็นอาจารย์จะถ่ายทอดให้ศิษย์เพียง 80% อีก 20% เก็บไว้กันศิษย์คิดร้างครู กลัวจะเทียบเท่าหรือเก่งกว่าอาจารย์ เมื่อเวลาผ่านไปหลายยุค หลายสมัย วิชาก็จะสูญหายลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ เพราะรับถ่ายทอดมา 80% ก็เก็บไว้อีก 20% เหลือ 60% หรือ 40% เป็นรุ่น ๆ เพราะวิชานี้เปรียบเป็นเหมือนอาวุธใช้ทำร้าย หรือหลอกคนอื่นให้หลงเชื่อและศรัทธาได้ง่าย ถ้านำไปหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ และในทางกลับกันก็เป็นเกาะป้องกันตนเองจากคนเลว หรือคนที่จะทำความเดือดร้อนให้เรา ซึ่งในปัจจุบันวิชาโหงวเฮ้งเข้ามามีบทบาทมากตามบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งต้องจ้างซินแสโหงวเฮ้งมาคอยคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานในแผนกต่าง ๆ โดยพิจารณาจากคุณลักษณะของผู้สมัครว่า เหมาะกับตำแหน่งงานหรือไม่ มิใช่ใช้วุฒิการศึกษาและประสบการณ์เท่านั้น นอกจากนี้บางบริษัทยังมีการอบรมความรู้ทางศาสตร์โหงวเฮ้งให้กับพนักงานขายเพื่อจะได้ใช้ติดต่อลูกค้าว่าจะพูดจะคุยอย่างไร เมื่อไปพบลูกค้าแต่ละลักษณะเพื่อให้การขายสัมฤทธิ์ผล ตามคำกล่าวที่ว่า “มองหน้าก็รู้ใจ เรารู้เขา แต่เขาไม่รู้ว่า” ดังนั้น เรามีแต่ชนะกับเสมอ |
โหงวเฮ้งของพนักงานฝ่ายบริหาร โหงวเฮ้งของพนักงานฝ่ายออกแบบ ฝ่ายวางแผน ฝ่ายวิเคราะห์(ที่ต้องใช้ความคิด) พนักงานด้านการเงิน พนักงานฝ่ายขาย หรือแผนกที่ต้องติดต่อบุคคลภายนอก |