สวัสดีครับท่านสมาชิกของบ้านฮวงจุ้ยทุกท่านที่ติดตามบทความลายมือ ผมต้องขออภัยด้วยที่บทความขาดช่วงไป เนื่องจากต้องไปจัดฮวงจุ้ยและแก้ไขปัญหาเรื่องดวงชะตาให้กับลูกค้าที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม และกลับมาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นี้เอง ในตอนนี้จะอธิบายเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของเส้นลายมือบ้าง จะได้ฝึกการสังเกตุฝ่ามือตนเองว่ามีเส้นใดบ้างที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีเส้นที่เกิดขึ้นใหม่ อย่างน้อยก็ยังพอรู้คร่าวๆว่าดีหรือไม่ดี แต่ต้องจำเส้นหลักๆให้ได้ถ้าจำไม่ได้ก็ลองกลับไปดูบทความตอนต้นดูนะครับ

     ตามปกติแล้วเส้นลายมือที่เป็นเส้นหลักๆ เช่น เส้นชีวิต เส้นสมอง เส้นใจ หรือเส้นอื่นๆที่เป็นเส้นลึกชัดเจน มักไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง หรือถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็น้อยมาก แต่เส้นที่มีการเปลี่ยนแปลงและมักทำให้เกิดเรื่อง คือเส้นจร

     เส้นจรมีหลายรูปแบบมีทั้งเส้นที่ดีมาส่งเสริมเส้นอื่นๆ หรือเป็นเส้นเสีย คือเส้นอุปสรรคมาทำลาย หรือทำให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้น แล้วแต่ว่ามันไปทำอะไรกับเส้นหลักของเรา หรือมันไปเกิดที่เนินไหนในฝ่ามือ ก็จะเกิดเรื่องนั้นๆขึ้น เช่น ถ้ามีเส้นจรมาตัดขวางเส้นชีวิต ในอายุช่วงนั้นพอดีก็แสดงว่าเจ้าของฝ่ามือต้องมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ หรือไม่ก็ต้องประสบอุบัติเหตุแล้วแต่ว่าอยู่ที่มือข้างไหน ถ้าเกิดมีเส้นจรมาตัดขวางเส้นวาสนาเราในตำแหน่งจุดเดินอายุพอดี ก็แสดงว่าช่วงนี้เราอาจจะตกงาน หรือต้องย้ายที่ทำงานแน่นอน แต่ถ้าตัดแล้วเป็นเรื่องดีๆเกิดขึ้นก็มี เช่น เส้นจรมาตัดเส้นวาสนาในลักษณะของรูปวีคว่ำวีหงาย ก็แสดงว่าช่วงนี้จะมีการลงทุนหรือขยายงานแล้วได้ผลกำไรคืนทุนในปีถัดไป

     เส้นจรอาจจะไม่เกิดเป็นเส้นเดี่ยวๆก็ได้ คือเกิดเป็นกลุ่มหลายเส้น เช่นมีเส้นตั้งเกิดขึ้นใหม่ๆหลายๆเส้นที่เนินพุธ โดยไม่มีเส้นใดมาตัดขวางเส้นเหล่านี้เลย แสดงว่าเรามีโอกาสจะได้เงินก้อนแล้วถ้าประกอบธุรกิจอยู่ แต่ถ้าเป็นพนักงานขายก็อาจหมายถึงค่าคอมมิชชั่น หรืออาจเป็นเส้นตั้งที่เนินจันทร์ก็จะหมายถึงความคิดไอเดียใหม่ๆ หรือจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่

     ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของเส้นลายมือส่วนใหญ่ คือ 6 เดือน - 1 ปี แต่มันอาจจะเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วภายใน 2-3 เดือนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าในช่วงนั้นเรามีความคิดที่จะทำอะไร เช่นคนที่เป็นแม่บ้าน (คืออยู่บ้านเฉยๆ ไม่ใช่อาชีพแม่บ้านในออฟฟิต) เส้นลายมือมักไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง หรือถ้าเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนแบบเส้นภาระหน้าที่มันหดหายไป กับคนที่ทำงานมีภาระหน้าที่หลายๆอย่าง เส้นลายมือมักมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว และค่อนข้างจะยุ่งวุ่นวาย หรือมีเส้นเกิดใหม่ๆมากมายในระยะเวลาไม่นาน

     จะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นถ้ามีการวัดอายุและพิมพ์มือในระยะไม่เกิน 6 เดือน แล้วนำแผ่นพิมพ์ลายมือแผ่นเก่า กับแผ่นพิมพ์ใหม่มาเปรียบเทียบกัน ก็จะพบการเปลี่ยนแปลงของเส้นลายมือได้อย่างชัดเจนว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางใดบ้าง เช่น ยาวขึ้น สั้นลง เกิดขึ้นใหม่ หรือหายไปเลย สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกเรื่องราวต่างๆที่จะเกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ หรือในอนาคต

     ซึ่งนักพยากรณ์ลายมือมักจะอ่านแต่เส้นหลักๆ โดยไม่ค่อยสนใจเส้นจรเหล่านี้มากนัก เพราะเส้นที่เกิดขึ้นหรือเส้นที่มีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มันไม่มีในตำรา หรือถ้ามีมันอาจจะสูญหายไปจากการบันทึกไว้ เพราะโหราจารย์แต่ละยุคก็มักจะปิดบังเอาไว้ถ่ายทอดออกมาไม่หมด จนมันเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นนักอ่านลายมือต้องเข้าใจในหลักพื้นฐานลายมือทั้งหมด แล้วสามารถโยงเรื่องราวที่เกี่ยวกับเส้นทุกๆเส้นที่มันมีความสัมพันธ์กันไม่ว่าจะเป็นเส้นหลัก เส้นรอง หรือเส้นจร แม้กระทั้งเนินต่างๆที่เส้นเหล่านี้มันไปเกิดอยู่ นอกจากนี้ต้องสังเกตุสีสรรของเส้นที่เราจะดูด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้าเก็บข้อมูลได้มากก็จะวิเคราะห์ได้ตรงประเด็นและมีความแม่นยำกว่าการอ่านเส้นลายมือเพียงเส้นเดียว แล้วพยากรณ์ออกมา

     ในตอนนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ก่อน ถ้าอธิบายมากกว่านี้เดี๋ยวจะงงกันใหญ่ ไว้พบกันตอนหน้านะครับ

     อ.แป้ง