เลือกอาชีพเพื่อความสำเร็จ
โดย เชียร บางบอน
ใน 2 บทความที่ผ่านมาผมได้กล่าวถึง การบริหารชีวิตให้เกิดความสำเร็จ โดยได้กล่าวถึงเรื่องการตั้งชื่อให้เกิดความสำเร็จ และเรื่องการเลือกทำเลเพื่อความรุ่งเรือง เรื่องที่จะกล่าวในเดือนนี้คือการเลือกวันเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน แต่ได้คิดว่าเป็นการข้ามขั้นตอนเกินไป เพราะว่าคนเราจะเริ่มงานได้ต่อเมื่อต้องเลือกงานที่เหมาะสมได้ก่อน จึงตั้งใจว่าจะต้องว่าเรื่องการเลือกอาชีพให้เหมาะสมได้ก่อน เป็นว่าตอนนี้จะเป็นการเสนอทางเลือกในอาชีพให้ทราบก่อน เผื่อท่านผู้อ่านจะได้ทดสอบกับดวงชะตาของตนเอง
การเลือกงานที่เหมาะสมนั้น มีหลักทางโหราศาสตร์ดังนี้
1. จะต้องเลือกดาวที่มีคุณภาพดีที่สุดในดวง ดาวที่มีคุณภาพสูงคือดาวที่จะแสดงผลในเรื่องความสำเร็จได้มากที่สุด
2. ความสำเร็จของคนนั้นแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ
- ความสำเร็จด้านชื่อเสียง ถ้าต้องการความสำเร็จด้านชื่อเสียง จะต้องเลือกดาวที่มีความสำเร็จ โดยดาวต้องมีความสัมพันธ์กับดาว เดช เจ้าเรือน ภพศุภะ และดาว ๑
- ความสำเร็จด้านทรัพย์สิน ดาวที่เลือกต้องมีความสัมพันธ์ กับดาวศรี ดาวกดุมภะ ลาภะ และดาว พฤหัส
3. ดาวที่เลือกจะต้องไม่เป็นคู่ศัตรูกับเจ้าเรือนลัคนา หรือตนุลัคน์ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดอุปสรรคกับชีวิต
4. ดาวที่อยู่ในภพ อริ มรณะ และวินาศ ไม่ควรเลือกเป็นอาชีพ ยกเว้น เรือนมรณะเป็นคู่มิตร เป็นศรี หรือมีดาวเจ้าเรือนลาภะ กดุมภะสัมพันธ์
กฎเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อนี้ เป็นหลักการพื้นฐานในการพิจารณาอาชีพที่จะประสบความสำเร็จ อาจจะข้อย่อยเพิ่มเติมบ้าง แต่ก็จะเป็นเรื่องปลีกย่อย ซึ่งหลักใหญ่ทั้งหมดก็ครอบคลุมใน 4 ข้อนี้แล้ว
อาชีพที่ครองโดยดาวพระเคราห์มีดังต่อไปนี้
ดาว ๑ อาชีพนักบริหาร ราชการ งานที่เกี่ยวกับเรื่องพลังงาน ไฟฟ้า
ดาว ๒ อาชีพ ทำอาหาร แม่บ้าน ธุรกิจบ้านเช่า ที่พัก ท่องเที่ยว เดินทาง ธุรกิจการให้บริการ รับจ้างทำงานแทน
ดาว ๓ อาชีพ ช่างเทคนิค งานที่ต้องใช้แรงงาน งานฝีมือ งานที่เกี่ยวกับโลหะ เครื่องจักรกล งานอุตสาหกรรม การผลิต
ดาว ๔ อาชีพ พ่อค้า ครู อาจารย์ คนกลาง พนักงานขาย การตลาด โฆษณา งานติดต่อ งานเอกสาร และการสื่อสารทุกชนิด
ดาว ๕ อาชีพนักวิชาการ งานระหว่างประเทศ แพทย์ นักกฏหมาย นักโหราศาสตร์
ดาว ๖ อาชีพบันเทิง นักร้อง นักแสดง งานบันเทิง นักการเงิน การธราคาร เศรษฐศาสตร์ งานตกแต่ง แฟชั่น เสริมสวย
ดาว ๗ งานที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม งานที่ต้องใช้แรงงาน การเกษตร ก่อสร้าง ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ค้าของเก่า ของโบราณ
ดาว ๘ งานที่เกี่ยวกับการบริหารการตลาด งานระหว่างประเทศ สารเคมี ยา เครื่องดองของเมา ของเสีย ขยะ
ดาว ๙ งานที่เกี่ยวกับการเข้าทรง งานที่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ งานที่เกี่ยวกับการเดินทาง
ดาว ๐ งานที่เกี่ยวกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ อิเล็คโทรนิค งานที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ งานค้นคว้า งานวิจัย และโหราศาสตร์
เรามาลองพิจารณาดูว่าจะเลือกอย่างไรจะดีกว่า
ดวงนี้เป็นชาย เกิดวันอังคารที่ 18 ก.พ. 2512 เวลา 08.35 น. ดวงจรเป็นวันที่ 10 พ.ย. 2549 เมื่อพิจารณาจากดวงนี้ เราเริ่มทำการวิเคราะห์ว่าดาวดวงไหนมีกำลังนำพาไปสู้ความสำเร็จได้บ้าง ซึ่งแยกพิจารณาได้ดังนี้
1. ดาว ๖ เป็นอุจ และเป็นเจ้าเรือน สหัชชะ มรณะ ทางทักษาเป็นอุตสาหะ ดาว ๖ มีดาว ๗ กุมเป็นคู่ศัตรูใหญ่ ซึ่งก็มาจากภพลาภะทางทักษาเป็นเดช และดาว ๘ กุม มาจากภพวินาศทางทักษาเป็นมูละ อาชีพดาว ๖ คือ อาชีพที่เกี่ยวกับบันเทิง นักศิลปะ ดนตรี นักร้อง ดารา นายแบบ แฟชั่น สถานบันเทิง งานตกแต่ง เมื่อเลือกอาชีพในกลุ่มนี้ ชีวิตก็จะมีชื่อเสียงเพราะเป็นอุจ แต่ก็มักจะลุ่มๆดอนๆในเรื่องรายได้ ดาว ๗ เป็นคู่ศัตรูมากุม และมีปัญหาในเรื่องชื่อเสียงเสมอ ดาว ๘ กุมเป็นวินาศ มัจะเกิดเรื่องเสื่อมเสียอย่างไม่คาดหมาย หรือต้องเปลี่ยนที่โยกย้ายอยู่เสมอ
2. ดาว ๓ เป็นเกษตร ดาวอังคารเป็นดาวเจ้าเรือนกดุมภะ ศุภะ ดาว ๓ เป็นเกณฑ์กับดาว ๑ คู่ศัตรูเป็นอริทางทักษาเป็นมนตรี เกณฑ์กับดาว ๒ เจ้าเรือนปุตตะทางทักษาเป็นกาลี เมื่อเลือกอาชีพในกลุ่มดาว ๓ คืองานใช้ฝีมือ งานที่ต้องใช้กำลัง งานอุตสาหกรรม ทหาร ตำรวจ นักผจญภัย ช่างเทคนิค สัตวแพทย์ งานในกลุ่มนี้จะมีความก้าวหน้าอย่างมั่นคง และทำรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ แตต่ก็มีอุปสรรคจากเรื่องความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ และมักจะเกิดปัยหาในเรื่องการขาดแคลนบริวารอยู่เสมอ
ดวงนี้หันมาเลือกอาชีพที่เกี่ยวกับบันเทิง ทำให้มีชื่อเสียงและมีความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจทีเดียว แต่ก็เป็นอาชีพที่ใช้จ่ายเงินสูง ทำให้มักจะเกิดปัญหาในเรื่องรายได้ไม่เพียงพอเสมอ อาชีพนี้ยังเป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องเข้าไปคลุกคลีกับเรื่องต่างๆที่ไม่คาดหมายดังนี้
กุม ดาว ๗ + ๘ ทำให้เป็นคนที่มีคนรู้จักมากหน่าหลายต่าง ทั้งในส่วนที่เป็นเรื่องดี ดาว ๗ เป็นลาภะ , ดาว ๘ เป็นวินาศ มีทั้งคนไม่ดี
กุมดาว ๖ + ๘ ทำมักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องมัวเมา หรือเรื่องอบายมุข พนัน ชู้สาว และเรื่องสุรายาเมาอยู่เสมอ
กุมดาว ๘ เป็นเจ้าเรือนวินศ ย่อมหมายถึงเรื่องที่ไม่เปิดเผย ในภพวินาศมีดาว ๑ อริ เป็นมนตรี ความเดือดร้อนจากผู้ใหญ่ + ดาว ๑ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ร่วมเรือนดาว ๒ ปุตตะ เป็นกาลี จะเดือดร้อนเพราะเรื่องความคึกคะนอง
การเลือกงานที่เป็นบันเทิงนั้นขึงไม่สู้จะดีนัก เพราะเป็นเรื่องที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายๆมากกว่าเรื่องดี แม้จะทำให้เป็นคนมีชื่อเสียงก็ตาม เคล็ดลับในเรื่องพิจารณาดวงนั้น มีอยู่ข้อหนึ่งที่ได้กล่าวไว้ว่า ในภพวินาศ ถ้ามีดาวบาปเคราะห์สถิตย์อยู่ คือ ดาว ๑ ๓ ๗ ๘และดาว ๐ ย่อมมีความเสี่ยงในเรื่องคดีความที่อาจจะถึงคุกตะรางได้ถ้าประมาท ดวงนี้เมื่อเลือกอาชีพดาว ๖ ขึ้นมา ย่อมต้องไปกระตุ้นดาว ๘ และดาว ๑ ในภพวินาศให้ทำงาน
ดาว ๘ จนเข้ามาในราศีมีนราศีที่ลัคนาสถิตย์ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 48 ย่อมแสดงว่า ขณะที่เจ้าตัวประกอบอาชีพเป็นนักร้องอยู่นั้น เริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดจากพรรคพวกที่คบหากันอยู่ ประกอบกับเรื่องเงินทองที่ไม่สู้จะราบรื่นนัก ทำให้ต้องตัดสินใจหันไปค้ายาเสพติด ที่ทำให้มีรายได้ดี และคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร การถลำตัวเข้าไปเกี่ยวข้องย่อมทำให้ยากที่จะถอนตัวออกมาได้ง่ายๆ ยิ่งทำก็ยิ่งถลำลึกลงไป จนเมื่อดาว ๘ ย้ายไปเข้าภพวินาศ ทับดาว ๑ และดาว ๒ จึงทำให้ดาว มนตรีเดิมให้โทษตามพันธะสัญญาเดิม และภพวินาศก็ย่อมมีนำหนักมากในระยะนี้ ผลปรากฏว่า เจ้าตัวถูกจับในเรื่องค้ายาเสพติด ลัถูกห้ามประกันในวันที่ 10 พ.ยง 2549 นี้เอง
โดยหลักการของโหราศาสตร์นั้นเราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า คนเรานั้นจะมีโอกาสที่จะเกิดความสำเร็จในเรื่องอะไร และสามารถที่จะปรับปรุงวาสนาของตนให้มีความราบรื่นและมีความสำเร็จเท่าที่ดวงชะตากำหนดให้ เรื่องนี้บางท่านอาจจะอ่านมาถึงตรงนี้เกิดความไม่เข้าใจ ในหลักการโหร่าศาสตร์ไทยนั้นได้อธิบายถึงหลักที่จะทำให้คนเราเกิดโชคและความสำเร็จอยู่ 4 ประการ หรือที่นิยมเรียกกันว่า วิชาจตุรงค์โชค ซึ่งประกอบด้วย
1. การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัย (จีนเรียกว่าฮวงจุ้ย)
2. การประดับอัญมณี
3. การแต่งกาย
4. การตั้งชื่อ
หลักทั้ง 4 ข้อนี้เป็นหลักวิชาที่จะสนับสนุนให้คนมีความสำเร็จมากขึ้น แต่ไม่ได้หมาย ความว่าจะเปลี่ยนวาสนาคนไปได้อย่างพลิกฟ้าเปลี่ยนแผ่นดิน การที่คนเราจะสามารถพลิกฟ้าเปลี่ยนแผ่นดินได้นั้น หลักวิชาของไทยว่าไม่สามารถใช้วิชาจตุรงค์โชคให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ วิชาจตุรงค์โชคถ้าจะเปรียบถึงประโยชน์ของวิชานี้ ย่อมหมายถึง แค่เป็นส่วนที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ถ้าเราเปรียบวาสนาเป็นรถยนต์ ย่อมหมายถึงว่า จตุรงค์โคเป็นเพียงน้ำมันที่เราจะเลือกเติมเท่านั้น เช่น รถยนต์เบนซิน ดันไปเติม ดีเซล เครื่องก็เสีย หรือชำรุด แต่พอเติมนำมันเบซิน 91 ก็ย่อมสู้น้ำมันเบนซิน 97 ไม่ได้ที่ทำให้เครื่องยนต์วิ่งได้จัดจ้านมากขึ้น สตาร์ทติดง่ายขึ้น จตุรงค์โชคจึงเปลี่ยนได้เป็นเพียง นย้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถไปเปลี่ยนตัวเครื่องยนต์ได้
ในหลักวิชาโหราศาสตร์ได้บอกถึงว่าถ้าต้องการเปลี่ยนวาสนานั้น พอมีช่องทางที่จะทำได้บ้างคือ
1. เลือกคู่ครองที่มีความสมพงศ์กัน จะเป็นหลักใหญ่ที่จะทำให้ใช้วิตดีขึ้น ตรงนี้จะมีข้อพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรม เราคงพบว่าคนบางคนชีวิตตอนโสดอยู่อย่างข้นแค้น ยากจนลำบากไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย แต่พอแต่งงานก็ได้คู่ครองมาสนับสนุนสามารถทำให้ก่อร่างสร้างตัวได้อย่างร่ำรวยมั่งคั่ง แต่บางคนพอแต่งแล้วฐานะและความสำเร็จกลับถดถอยลงไป การแต่งงานกับคนที่เหมาะสม จึงเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถปรีบเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ดีขึ้นจากเดิม เรื่องนี้ถ้าท่านผู้อ่านสนใจก็น่าจะหาอ่านจากหนังสือเรื่องประเภทฆราวาสธรรม ที่ว่าถึงเรื่องการเรื่องคู่ ส่วนการดูสมพงษ์เป็นเรื่องที่ปลายเหตุครับ
2. เลี้ยงดูบุตรให้เป็นอภิชาติบุตร เรื่องนี้หมายถึงการอบรมสั่งสอนบุตรให้เป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรู้ เพื่อที่จะได้เป็นที่พึ่งพาของบิดามารดาต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เราคงพบเห็นอยู่ในสังคมทุกเมื่อเชื่อวัน คนที่วาสนาดีถ้าเลี้ยงดูกุลบุตรกุลธิดาไม่ดี ก็มีโอกาสที่วาสนาของตนเองจะพลิกผันได้
3. ประพฤติปฎิบัติตัวให้เป็นผู้มีความสำเร็จ โดยอาศัยหลักธรรมที่พระพุทธเจ่ได้ตรัสถึงความสุข 4 ประการของผู้ครองเรือน คือ
1. สุขจากการมีทรัพย์
2. สุขจากการใช้จ่ายทรัพย์
3. สุขจากการไม่เป็นหนี้
4. สุขจากการทำประกอบอาชีพที่ปราศจากโทษ
รายละเอียดในข้อ 3 นั้นน่าจะที่ท่านผู้อ่านเคยอ่านผ่านตามาแล้ว เพราะอยู่ใน
หนังสือเรียนธรรมะที่ได้ศึกษากันมาแล้ว ความสำเร็จของมนุษย์นั้นนอกจากเรื่องต่างๆ แล้วปราชญ์ในทุกสาขายังรับรองว่า คุณธรรมจะเป็นเครื่องน้อมนำให้ไปสู่ความสำเร็จ
วันนี้ผมได้เสนอมุมมองใหม่ให้ท่านผู้ที่สนใจบทความนี้ได้ลองพิจารณากันดูว่าเป็นจริงหรือไม่ ผมไม่อยากให้ท่านผู้อ่านไปหมกมุ่นกับเรื่องเสดาะห์เคราะห์กรรมวิธีการทางโหรจนมองข้ามสัจธรรมของโลกไปเสีย และที่นำมาเสนอนี้ก็น่าจะเป็นข้อคิดสะกิดใจให้ท่านผู้ได้ช่วยกันคิด การทำพิธีกรรมทางโหรนั้นจะได้ผลต้องเข้าใจหลักวิธีและแนวปฏิบัติของหลักวิชานั้นๆเสียก่อน แล้วในบทความต่อๆไป ผมจะค่อยนำมาขยายต่อไปครับ
*******************************