ประสบการณ์วิชา ฉีเหมินตุ้นเจีย
     ผมเป็นศิกษ์คนหนึ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เรียนวิชา ฉีเหมินตุ้นเจีย จากท่านอาจารย์ ชัยฤทธิ์ ซึ่งหลังจากได้รับการถ่ายทอดจนสำเร็จ ท่านอาจารย์ก็บอกว่าให้ไปพิสูจน์วิชานี้ว่าใช้ได้ผลหรือไม่อย่างไร ก็กลับไปใช้กับตนเองก็ได้ผลดี แต่ว่าบ้านของผมมีการจัด ฮวงจุ้ย ไว้แล้ว เลยมีความคิดว่าน่าจะทดลองกับผู้อื่นที่บ้านของเขา ยังไม่เคยจัดฮวงจุ้ย เลย เพื่อจะได้ว่าใช้วิชานี้อย่างเดียวโดยที่ไม่มีพลัง ของ ฮวงจุ้ย เข้ามาเกี่ยวข้องผลลัพธ์ จะออกมาอย่างไรและใช้ได้ผลกับเรื่องใดบ้าง ซึ่งพอจะยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงได้ดังนี้

กรณีแรก เรื่องการประมูลงานเพื่อรับ-ส่งพนักงาน วันที่ 28 สิงหาคม 2549 เวลา 13.00 น 

     วันที่ 25 มกราคม 2549 เวลา 9.00 น.

     สองสามี ภริยาเป็นหนี้บัตรเครตดิต ทั้งคู่เผอิญเป็นพ่อแม่ของเพื่อนลูกสาวของผม ทั้งสองเป็นหนี้ทั้งหมดซึ่งรวมทั้งต้นและดอกเบี้ยด้วยประมาณ เกือบ 400,000 บาท ทั้งที่ใช้เงินไปอยู่ที่ ประมาณ 100,000 น. แต่ด้วยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่งเงินผ่อนชำระไปโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไร มารู้เอาตอนที่จะเอาเงินไปตัดหนี้ทั้งหมด จึงได้สอบถามบริษัทบัตรเครดิตว่าต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ ผลปรากฏว่าเงินที่ผ่อนชำระทุกเดือน ส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยประมาณ 80 % ของเงินค่างวด อีก 20 % ตัดเป็นเงินต้น จึงตัดสินใจไม่ยอมผ่อนชำระต่อ จึงขาดการติดต่อไปประมาณ 8 เดือน แต่เนื่องด้วยทั้งสองเป็นพนักงานของรัฐวิสาหกิจของรัฐ จึงถูกติดตามจากฝ่ายเร่งรัดหนี้สิน ของบริษัทบัตรเครดิตได้ไม่ยาก และถูกยื่นฟ้องต่อศาล ต้องขึ้นศาลในวันที่ 25 กันยายน  เวลาประมาณ 9.00 น. สองสามีภริยา ได้มาปรึกษา ผมว่าจะทำอย่างไรดี จะขอเลื่อนนัดไปก่อนดีหรือไม่ ผมจึงให้ปรึกษาทนายก่อน และได้รับคำตอบจากทนายว่าจะเสียเปรียบเพราะทั้งคู่จงใจไม่ชำระหนี้   ผมลองคำนวณวันและเวลาดังกล่าวดูดว่า พอมีทางแก้ไขหรือไม่ หลังจากคำนวนแล้วเห็นว่ามีทางได้เปรียบ จึงบอกว่าให้ไปตามนัดแต่ ต้องมีวิธีไป เพราะตอนเช้าก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีต้องไปยื่นเอกสารพร้อมทนายก่อน จึงต้องหาทิศทางที่ดี ในช่วงนี้ด้วย จึงให้คำแนะนำว่าทั้งคู่ต้องมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำหนดให้ตัวศาลและประตูทางเข้าเป็นเป้าหมาย แต่ขอให้ไปสำรวจและหาตำแหน่งที่จะยืน เพื่อมุ่งหน้าไปทิศทางดังกล่าว ก่อน 1 วัน ประกันความผิดพลาด และเมื่อถึงวันที่ 25 กันยายน ขั้นแรก ให้ทำตามนี้โดย ยืนในตำแหน่งที่กำหนดไว้แล้ว เมื่อถึงเวลา 7.00 น. ให้เดินหน้าเข้าต้วศาล ถ้าศาลเปิดประตูแล้ว แต่ถ้ายังก็รอจนกว่าประตูจะเปิด แล้วเดินหน้าไปเพื่อติดต่อยื่นเอกสารกับทนาย  เมื่อยื่นเอกสารเสร็จแล้วให้ไปดูว่าห้องพิจารณาคดี อยู่ในทิศทางใด โดยคาดคะเนจากจุดศูนย์กลางของอาคารถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็ให้กำหนด ห้องพิจารณาคดี ให้อยู่ทางทิศใต้ เพื่อจะได้เดินมุ่งหน้าไปทางทิศนั้น เมื่อถึงเวลา 9.00 น. แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้จริง ๆ  เวลา 8.40 น. ขอให้ออกมาจากตัวศาลทั้งสองคน แล้วไปตั้งหลักใหม่โดยให้ศาล และประตูทางเข้าอยู่ในตำแหน่งทิศใต้ เมื่อถึงเวลา 9.00 น. ให้เดินกลับมาเข้าไปใหม่ แต่เมื่อถึงวันจริงทั้งคู่ทำตามคำแนะนำในช่วงเวลา 7.00 น. ได้สำเร็จ แต่มีปัญหาอยู่ว่าห้องพิจารณาคดีอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถจะกำหนดทิศทางเดินได้ เพราะต้องเดินทะลุห้องอื่น ผ่านห้องซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ทราบด้วยการที่รับพลังที่ดีมาในช่วง 7.00 – 8.30 น. มาหรือไม่ ทำให้ห้องที่ต้องเข้าไปพิจารณาคดี เกิดไฟช๊อค เวลา 8.40 น. ไม่ทราบสาเหตุ  จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนห้องพิจารณาความคดีใหม่ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งทิศใต้พอดี พอถึงเวลา  9.05 น. สองสามี ภริยาก็เข้าไปนั่งรอผู้พิพากษาคดี และได้รับการตัดสินจากศาล ด้วยความยุติธรรม และเข้าข้าง โดยตัดสินว่าให้ทั้งสองฝ่ายนำหลักฐานทั้งหมด มาแสดงต่อฝ่ายพนักงานประนีประนอม แล้ว ชำระหนี้ตามความเป็นจริง พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ถือเป็นการเอาเปรียบลูกค้าให้เพิกถอนทั้งหมด และเจ้าพนักงานของศาล จะเป็นผู้คิดเงินต้น บวก ดอกเบี้ยตามจริง แล้วเฉลี่ย ผ่อนชำระเป็นรายเดือนจนกว่าจะครบจำนวน โดยนัดในวันที่ 25 มกราคม 2550 เวลา 9.00 น.

แป้ง สังสิทธิ์ ศิกษ์รุ่นที่ 1 (รุ่นครอบครัว )